หากพูดถึงอัมพวาก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก และน่าจะเคยไปกันมาแล้วนะครับ อัมพวาอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพเลย ขับรถเพียงแค่ ชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้ว ไปเช้าเย็นกลับก็ได้ แต่อยากให้ลองไปค้างสัก 1 คืน แบบพวกเรา เอาชีวิตไปติดน้ำ ใช้ชีวิตช้าๆ ทานอาหารทะเล ดื่มกาแฟโบราณ ทานขนมไทย ซื้อของเล่นเด็กสมัยก่อนมาเล่นกับเพื่อนๆ ตกดึกก็นั่งเรือไปชมหิ่งห้อย มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ดีจริงๆ ไม่เชื่อดูรีวิว เดี๋ยวจะหาว่าหลอก
More picture on IG: @Oattsu / @Oatnarongrit
เรือนสเน่หา อัมพวา
พอมาถึงอัมพวาก็เข้าที่พักก่อนเลยอันดับแรก เพราะอากาศค่อนข้างร้อน เราเลยมาตั้งหลักกันที่โรงแรมก่อน พอเข้าไปเท่านั้นแหละ กว่าจะออกจากโรงแรมก็เกือบเย็นเลย เพราะโรงแรมนี้มุมถ่ายรูปเยอะมาก รวมถึงสระว่ายน้ำ กระเบื้องสีขาว อยู่ตรงกลางตัวโรงแรม ไทยคอนเทมสวยๆ ถึงแม้โรงแรมนี้จะไม่ได้ติดกับตลาดน้ำเลย แต่ก็เดินไปได้ใกล้ๆ และมีท่าน้ำเป็นของตัวเอง ไว้สำหรับตักบาตรตอนเช้าได้ด้วย จะเล่าในรูปต่อๆไปและกันครับ ถ้าลงรูปรร. เยอะหน่อยอย่าว่ากันนะ เราอิน
เก้าอี้ไม้แบบโบราณวางกับใบไม้สีเขียวดูเข้ากันดี
ห้องที่เราพักเป็นแบบ 2 ห้องนอน เพราะเราไปกัน 5 คนแหนะ ห้องนี้น่ารักดี
อีกห้องนึงเป็นเตียงเจ้าหญิง มีมุ้งด้วย มุ้งมิ้งมากๆ ที่สำคัญคือเตียงดูดมาก ตอนเช้าไม่อยากลุกเลย
ห้องน้ำมีอ่างอีก ไม่ต้องพก Bubble bath ไปนะเค้ามีให้อ่า
สระว่ายน้ำในโรงแรม อยู่ท่างกลางเรือนไทยได้อย่างลงตัว
ดับร้อน
ทางเดินไปทาอาหารเช้า ริมคลองร่มรื่นมาก
มุมน่ารักๆในโรงแรม
ที่โรงแรมมีจักรยานให้ปั่นด้วย
พอถ่ายรูปกันเกือบจะเย็นเราก็รีบเดินออกไปตลาดน้ำกัน
ตลาดน้ำอัมพวา
บ้านนี้เราเคยเห็นตั้งแต่ครั้งที่มาคราวที่แล้ว เมื่อนานมาก พอเห็นอีกครั้งก็ยังรู้สึกสวยอยู่
ชอบนกบนหลังคา หน้าต่างและระเบียง
ไอศครีมมะพร้าวห้ามพลาดเลยร้านนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านรูปที่แล้ว
ถ้าลองมองดูดีดีแล้วอัมพวาก็มีมุมน่ารักๆเยอะแยะเลย อย่างภาพนี้ถ้ามีคนเข้าไปนั่งก็ได้ภาพน่ารักๆอีก 1 ภาพ
ขนมไทยน่าทานเยอะมาก มีให้ชิมด้วย อิ่มแบบอิ่ม
ขนมไทยโบราณหาทานยากก็มี สวยจริงๆ
ร้านริมระเบียง
ร้านนี้พวกเรามาทานอาหารเย็นกัน ร้านสีเขียวเวอริเดี่ยน ใครไปก็ต้องเจอ มีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่งแต่ที่ขึ้นชื่อของร้านนี้เลยคือ ซี่โครงหมู บาบีคิว ไปลองได้ เราลองละ
หน้าร้านริมระเบียง
ร้านริมระเบียง
เราสั่งมาทานเยอะมาก คิดว่าจะทานไม่หมด แต่คือหมดแบบหมด อย่าลืมสั่งสมูตตี้มาทานแก้อากาศร้อน
ใครแวะมาอัมพวาอย่าลืมทาน ซี่โครงหมูบาบีคิว ที่ร้านริมระเบียง
สำหรับใครที่ชอบ Mozzarella ชีส ต้องสั่ง Margherita Pizza ที่ร้านริมระเบียง หอมอร่อย
สมูตตี้ มีหลายสูตรมาก เราเลือกเสาวรส มะม่วง โยเกิร์ต
อันข้างหลังของเพื่อน คือ Very Berry
Calamari ของโปรดเจอที่ไหนก็ต้องสั่ง ที่นี่อร่อยดีนะ
เสาวรส มะม่วงปั่น
โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ มูลนิธิชัยพัฒนา
เป็นที่ที่มีขนมไทย อาหารไทยและมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆน่ารักๆ
ร้านนี้มีโชว์ทำฝอยทองของโปรดให้ดูด้วย
ปิ่นสุวรรณ ขนมไทย
พิพิธภัณฑ์อนันต์ชัยไทยโบท
ตลาดน้ำอัมพวา Amphawa Floating Market
หมวกน่ารักดี
อัมพวายามคำ่คืน สวยและสงบ
นั่งเรือดูหิ่งห้อย ลุงคนขับบอกว่า “คนอัมพวาไม่ได้เลี้ยงหิ่งห้อย แต่หิ่งห้อยเลี้ยงคนอัมพวา”
เรือนเสน่หา House of Passion
อีกวันนึงเรารีบตื่นเช้ามาตักบาตรกันที่ท่าเรือของโรงแรม ตอนเจ็ดโมงเช้า อิ่มใจแถมอิ่มบุญ และกลับไปนอนต่อ
เพื่อนๆที่ไปด้วยกัน
ประตูหน้าโรงแรม
นั่งรถไปไหนกันอะ
บอกแล้วมุมถ่ายรูปในโรงแรมเยอะจริงๆ
น้องโชแชงก็มาร่วมทริปนี้ด้วย
มาอัมพวาก็อย่าพลาดอาหารทะเล ร้านที่เราทานจะอยู่หน้าร้านแป๊ะเฮงก๊วยเตี๋ยวเรือ สะอาดดี มีน้ำล้างมือให้ล้างดับคาว น้ำจิ้มอร่อย ราคาไม่แพง
โสมนัสพาณิชย์
ร้านนี้น่ารักดี ฟีลร้านกาแฟอากง
มาจิบชากาแฟเย็นๆ
ก่อนกลับแวะขอพรที่ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด
ยูจอง กับ เติ๊กๆ ผู้ร่วมทริป
Simply space
ร้านกาแฟเล็กๆน่ารักๆ เราแวะตอนขากลับกรุงเทพ
Simply space