หากถามว่าสถานที่แบบไหนที่เราอยากจะไปพักผ่อน ในช่วงฤดูฝน จนถึงฤดูหนาว ก็คงจะต้องเป็น ที่ที่มี ภูเขา มีต้นไม้เยอะๆ อากาศเย็น และมีความเงียบสงบ ให้เราได้ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม มองวิวธรรมชาตินอกหน้าต่างได้ทั้งวัน แบบไม่ต้องออกไปไหนเลย วังน้ำเขียว เป็นอีกที่หนึ่งที่มีครบทุกอย่างตามที่บอกมาในตอนแรก เราชอบที่นี่ เพราะมีเนินเขาน้อยใหญ่ไล่ระดับกันไปมา ทำให้วิวแถวนั้นเป็นวิวเนินเขา และจะเห็นหมอกได้ในตอนเช้า มาวังน้ำเขียวครั้งนี้ เราเลือกพักที่ Veravian Resort – Khao Yai Wang Nam Khiao เพราะที่นี่มีครบทุกอย่างตามที่เราต้องการจริงๆ ทั้ง Private Pool สวนดอกไม้ และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แถมไม่ไกลจากกรุงเทพเลย ขับรถมาชิลๆ 3 ชั่วโมงก็ถึง มาได้ 2 ทาง ผ่านเขาใหญ่ หรือผ่านปราจีนบุรี แค่วิวระหว่างทางก็ได้ผ่อนคลายแล้ว ห้องพักที่นี่อยู่บนเนินเขาสูง จะไต่ระดับกันขึ้นไปบนเนินเขา ทำให้แต่ละห้องไม่บังวิวกัน และมีความเป็นส่วนตัว มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากกกก โดยที่นี่จะมีห้องพักให้เลือก 7 แบบ เราพักแบบ Hour Sky Villa ที่จะอยู่บน Hour Pool Villa อีกที ถ้ามาหลายคนก็จองทั้งหลังไปเลย ไพรเวทสุดๆ จะพาแฟนมา มากับเพื่อนหรือครอบครัว มากับใครก็ได้ เค้ามีห้องรับรองได้หมด เรามาพักที่นี่กัน 2 วัน 1 คืน แต่เวลาเหมือนเดินช้าลง รู้สึกว่าได้พักผ่อนเต็มที่มาก ตอนกลับยังแอบคิดอยู่เลยว่า พึ่งขับรถมาเมื่อวานนี้จริงๆหรอ ใครอยากใกล้ชิดกับธรรมชาติ ชาร์ตพลัง รับอากาศดีดี ดูวิวสวยๆ ทานอาหารอร่อยๆ ก็ชวนเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักไปเที่ยวเวลาเวียน รีสอร์ท วังน้ำเขียว ได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน จนถึงฤดูหนาว อากาศเย็นสบายดีมากๆ ปล. ตอนเช้าและตอนเย็นอากาศดีมากๆ ใครกลัวหนาวพกคาดิแกน มาใส่สักตัวก็ดี
Location: Veravian Resort – Khao Yai Wang Nam Khiao Website : https://veravianresort.com
ทางเข้ารีสอร์ทครับ เป็นอุโมงค์ไผ่ แวะถ่ายภาพซะหน่อย
Hour Sky Villa รับวิวธรรมชาติแบบเต็มๆ
พอเปิดประตูมาพวกเรา ว้าวกับวิวมาก
ห้องแบบนี้มีระเบียงให้ไปนั่งเล่นรับอากาศเย็นๆข้างห้องด้วย
พอเก็บของเสร็จก็ออกไปเดินสำรวจรอบๆ รีสอร์ทกัน
ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของรีสอร์ทก็จะเห็นวิวภูเขา ให้ได้พักสายตา
Pool with a view
ระเบียงดาว เรามาดูดาวกันตอนกลางคืนที่นี่ แต่ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของรีสอร์ทก็จะมองเห็นดาวชัดอยู่แล้ว
ใครชอบดอกไม้ ต้นไม้สวยๆ ต้องชอบที่นี่มาก เพราะมีหลายสายพันธุ์ และมีสวนกอกไม้ให้ได้ถ่ายรูปด้วย
เป็นสวนดอกไม้ของทางรีสอร์ท สวยมาก
เดินไปเดินมาเดินไปเจอ โรงปลูกผักไฮโดรโปนิค แบบปลูกด้วยน้ำ ปลอดสารพิษ ถามคนรีสอร์ทได้ความว่า เค้าปลูกผักเอง ไว้ทำอาหารให้แขกที่มาพักทาน รู้สึกสุขภาพดีทันที
ผักสดๆนี้ชั้นจะกินเจ้าเป็นอาหารเย็น
มะเขือเทศ
เดินไปเดินมาก็ถึงเวลาอาหารเย็น
อาหารเย็นทีเวลาเวียน ทานกันสองคนจริงๆ คืออยากทานทุกอย่างเลย เลยสั่งมาเต็มที่มาก ใครไม่ได้พักก็สามารถมาทานอาหารและกาแฟได้ อาหารอร่อย วิวดี
นำ้พริกเวลาเวียน กับผักสดปลอดสารพิษ ตอนแรกโอ๊ตซึไม่ทาน แต่พอทานเข้าไปเท่านั้นแหละ ต้องบอกให้ช้าก่อนนนน
ปลาทอดโรยด้วยกระเทียมหอมๆ มากับน้ำจิ้มซีฟู๊ด จะรออะไรหล่ะ อั้มมม
ทานต้มกระดูกหมูร้อนๆ ในอากาศเย็นๆมันดีจริงๆ
ปีกไก่ทอด ที่นี่คือพีค เราสองคนชอบมาก ต้องมาลอง
ทานอาหารไปก็ดูพระอาทิตย์ตกดินไป เจริญอาหารสุดๆ
เวลาเวียน ยามเย็น อากาศดี
ตื่นสายหน่อยๆ
จิบกาแฟร้อนๆ ก่อนออกไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ดูวิวข้างนอกสิ ดูไม่เบื่อเลย
เรานอนดูวิวนี้ได้ทั้งวัน
กระจกจากโต๊ะเครื่องแป้งสะท้อนวิวธรรมชาติทะลุเข้ามาในห้อง ชอบเวลาที่ส่องแล้วมีแบลคกราวเป็นป่าสีเขียว
ลงมาแช่น้ำก่อนกลับกรุงเทพ
ไพรเวทพูล คือชิลมากๆ สระว่ายน้ำส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติ
วิวเขาที่เห็นจากทางรีสอร์ท ขากลับเลยแวะซะหน่อย ทริปนี้เราใช้กระเป็าเดินทางจาก Rubber Killer ชอบที่เก็บของได้เยอะ ดีไซส์ดี และมีส่วนช่วยธรรมชาติ ด้วยการนำยางรถกลับมาใช้ใหม่ รักมากอยากบอกต่อ