COMO POINT YAMU PHUKET
เข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการแล้ววววว หน้าร้อนแบบนี้ทำให้พวกเรานึกถึงตอนที่หนีไปพักเหนื่อยดับร้อน กันที่ COMO Point Yamu ภูเก็ต กัน 4 วัน 3 คืน แช่น้ำอยู่ใน Pool villa นอนชมวิวอ่าวพังงา เดินเล่นบนชายหาดอันเงียบสงบ แฮปปี้แบบชาร์ตพลังเต็มที่มาก จนอยากแนะนำให้เป็นจุดหมายปลายทางของทุกคนในฤดูร้อนน
COMO Point Yamu อยู่ที่บริเวณแหลมยามู บนชายฝั่งทิศตะวันออกของภูเก็ตที่เงียบสงบมากๆ เดินทางประมาณ 20 นาที จากสนามบินภูเก็ตก็มาถึงที่พัก วิวงามอารมณ์แบบทะเลในแถบแคริบเบียนเลย
มาพักที่นี่นอกจากห้องจะดีงาม วิวสวยมากแล้ว เหมือนได้มามิวเซียม เดินชมงานศิลปะได้ทั่วทั้งตัวโรงแรมเลยเพราะที่นี่ถูกออกแบบโดย Paola Navone ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน ผู้ออกแบบ COMO Metrolitan Miami ในสไตล์ contemporary ใช้สีสันจากวัสดุท้องถิ่น มี installation art เดินถ่ายรูปเล่นได้ทั้งวัน
พวกเราอยู่ที่นี่กัน 4 วัน 3 คืน แบบไม่ออกไปไหน แล้วยังรู้สึกน้อยเกินไป เพราะดื่มด่ำกับแสงแดด วิวอ่าวพังงาแบบ 360 องศา ทานอาหารใต้ ร่องเรือ ทำสปา เดินเล่นถ่ายรูปตามมุมต่างๆของโรงแรม และการบริการของพนักงานทุกคนที่ตั้งใจดูแลพวกเราแบบเต็มที่มากๆ แฮปปี้สุดๆ เป็นโรงแรมที่เราจะกลับไปอีกอย่างแน่นอน
Instagram: oatnarongrit
ห้องที่เราพักเป็นแบบ 3 ห้องนอน ขนาดกว้างมากที่สุด 400 ตาราง แบบวิ่งหากันไม่เจอ ห้องนี้วิวดีมาก ไม่มีต้นไม้บังอยู่สูงที่สุด วิวพระอาทิตย์ขึ้น
วิวจากเตียงนอนเป็นแบบนี้
Instagram: oattsu
เรามาทานอาหารที่ห้องอาหาร La Sirena กันทั้งเข้า กลางวัน เย็นเลย ที่นี่จะเสิร์ฟอาหารแบบอิตาเลียน อาหารทะเล ดีไซน์ยิ่งใหญ่อลังการ ถ่ายรูปได้ทุกจุด อยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลย
พวกเราชอบที่นี่ที่มีเมนูเพื่อสุขภาพหลายเมนูที่เค้าเรียกว่า COMO Shambhala Cuisine จะเป็นพวกสลัด เต็มไปด้วยผักผลไม้ต่างๆวิตามินและแร่ธาตุมาเต็ม ทานแล้วคลีนแบบอร่อย เลือกทานเป็นมื้อกลางวันเบาๆ อย่างเมนูปลา และสลัดอกไก่ฉีก ดีมากๆ
สระว่ายน้ำส่วนกลาง ข้างห้องอาหาร มานั่งดูวิวพระอาทิตย์ตกดินตรงนี้ดีที่สุด
พวกเราจองเรือส่วนตัว ของ COMO Point Yamu เพื่อไปล่องเรือชมวิวพระอาทิตย์ตกดินด้วย ชื่อเรือว่า Capricorn สามารถขึ้นได้ถึง 10 คน เส้นทางการเดินเรือสามารถคุยกับพนักงานที่ดูแลได้เลยว่าอยากทำอะไรบ้าง แนะนำให้ซื้อทริปแบบทั้งวันไปเลย เพราะจะได้ไปดำน้ำตามจุดต่างๆพร้อมดูวิวพระอาทิตย์ตกดิน ใช้ชีวิตบนเรือแบบเต็มอิ่ม ช่วงนี้ราคาดีมากด้วย
วันที่เราไปคือฝนตกหนักมาก ไม่ได้ดูวิวพระอาทิตย์ตกดิน แต่มู้ทที่ได้นั่งจิบไวน์เย็นๆบนเรือ ได้กลิ่นฝน ชมวิวทะเลเวลาฝนตกก็สวยไปอีกแบบ นั่งคุยกันเป็นมู้ทที่ดีมากๆ ชิลมากแบบไม่อยากลงเรือเมื่อถึงฝั่ง
ถ้าฝนไม่ตกคงได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินที่เมจิกมากแน่ๆ
อารมณ์ทะเลแคริบเบียนไหมล่ะ สวยไปอีกแบบ
ตอนเย็นเรามาทานอาหารไทยที่ห้องอาหาร น้ำยา มีเมนูอาหารไทยและอาหารใต้ อาหารทะเลแบบรสดีมาก
เราชอบที่เค้าแต่งเป็นไฟกลมๆเหมือนอยู่ใต้น้ำแล้วมี bubble ใต้น้ำ น่ารักมาก
เราชอบแกงปูมาก และใครกลัวเผ็ดให้สั่งยำผักกูดใส่เนื้อปูมาทานด้วยนะอร่อย แบบดับเผ็ดได้
ดูจานที่ใช้สิ ก็มีเรื่องราว
เดินเล่นรอบๆในโรงแรม ถ่ายรูปได้ทุกมุม สวยเหมือนเดินเล่นในมิวเซียม มี installation art เป็นจุดๆ ทุกบริเวณเต็มไปด้วยรายละเอียดของงานศิลปะ การใช้สี และแมททีเรียลต่างๆพื้นบ้าน ที่ถูกดีไซน์ออกมา modern
ใครมาพักที่นี่อย่าลืมมานวดที่สปา เลยแบบห้ามพลาด คือความผ่อนคลายขั้นสุด นวดเสร็จแล้ว มีโซนซาวน่า และแช่น้ำผ่อนคลายได้ต่อ
อาหารเย็นวันสุดท้ายเราจองแบบ บาบีคิว ในวิวล่าเลย อาหารจะเป็นแบบรวมไทยฝรั่งและซีฟู๊ด อิ่มอร่อยมาก ปิดจบทริปอย่างสวยงาม
